3 วัน 2 คืน สำหรับการโบกรถจากชายแดนประเทศจอร์เจีย-ตุรกีเป้าหมายกรุงอิสตันบูลระยะทาง 1,800 กิโลเมตร
ตอนนี้ผมทำสำเร็จแล้ว ผมกำลังยืนอยู่ในเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันๆปี เมืองที่มีป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุดของยุคโบราณ”กรุงคอนสแตนติโนเปิล”
Ep.9 ประสบการณ์สุดลี้ลับจนขนหัวลุกระหว่างโบกรถจากจอร์เจีย-อิสตันบูล (ร่วมเป็นสักขีพยานงานแต่งงาน+นอนบ้านคนตุรกี)https://m.pantip.com/topic/40910044?หากเพื่อนๆอยากทราบ
เรื่องราวและข้อมูลการเดินทางของผมเพิ่มเติมแบบ
ละเอียดยิบ สามารถเข้าไปติดตามได้ในFB Page : หาตังค์เที่ยวรอบโลก
https://m.facebook.com/HATANGTEAWROBLOK/YouTube : North Vlog
https://m.youtube.com/channel/UCfxj2UCEMowtwxe_jkIq-7Q
21.30 น. ภารกิจพิชิตใจตัวเองของผมสำเร็จเสร็จสิ้น ผมโบกรถมาถึงใจกลางกรุงอิสตันบูลได้อย่างปลอดภัย ที่นี่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนเยอะแยะมากมาย ผมไม่เคยรู้เลยว่ากรุงอิสตันบูลจะมีคนเยอะมากขนาดนี้ มันคงพอๆกับที่ผมไม่เคยรู้เลยว่ากรุงอิสตันบูลจะเจริญมากกว่าที่คิดไว้เสียอีก
ผมมาถึงกรุงอิสตันบูลโดยไม่มีเงิน “ลีราตุรกี” ติดตัวเลยสักเหรียญ บริเวณโดยรอบก็ไม่มีร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราเลยสักร้าน ถ้าไม่มีเงินลีราตุรกี ผมก็ไม่สามารถเดินทางไปยังโฮสเทลที่ผมจองไว้ล่วงหน้าได้ เงินดอลลาร์สหรัฐที่ผมพกติดตัวไว้เสมอจึงเกิดประโยชน์ขึ้นทันที
ในเมื่อหารับแลกเงินไม่ได้ ผมจึงนำเงินดอลล่าร์สหรัฐไปแลกที่ร้านข้าว เจ้าของร้านตาลุกวาวเมื่อเห็นธนบัตรที่ผมยื่นให้เขาไป แม้จะได้เรทไม่ดีเท่ากับร้านแลกเงินโดยเฉพาะ แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก “แถมยังเป็นทางรอดอีกทางหนึ่งด้วยใช่มั้ยหล่ะ?” ก่อนจะเดินออกจากร้าน เขาบอกผมว่า
“ถ้ามีเงินดอลล่าร์ก็เอามาแลกได้อีกนะ เพราะคนตุรกีชอบเงินดอลล่าร์ คุณจะเอาไปแลกร้านไหนก็ได้” มีเงินดอลล่าร์ติดตัวมันดีอย่างนี้นี่เอง
จากการสอบถามผู้คนรอบข้าง ถ้าจะไปโฮสเทลที่ผมจองไว้จะต้องนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ผมจึงเดินหาสถานี วินาทีที่ผมเดินลงไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ผมก็ถึงกับงงเลยเด้อ เพราะเบื้องล่างพื้นดินกว้างใหญ่มาก “จะต้องไปทางไหนวะเนี่ย?”
ด้วยความหน้ามึน ผู้หญิงตุรกีคนหนึ่งเดินมาถามผมว่า “มีอะไรให้ช่วยมั้ย?” ผมก็ยื่นตำแหน่งโฮสเทลในมือถือให้ดู ไม่นานก็มีคนตุรกีเดินมาถามอีก สักพักคนที่พร้อมจะช่วยเหลือผมมีมากถึง 6-7 คน พวกเขายืนล้อมราวกับผมเป็นเซเลป
“โหว เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก พวกเขาเอคทีฟอยากช่วยผมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” สรุปเลยว่าเท่าที่อยู่ตุรกีมาหลายวัน คนตุรกีชอบชาวต่างชาติ อีกทั้งพวกเขามีความเฟรนลี่และความกล้าที่จะคุยกับชาวต่างชาติมากสุดๆ วันนั้นผมจึงเดินทางไปถึงโฮสเทลได้อย่างปลอดภัย
หลังจากนอนพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม เช้าวันต่อมาผมออกเดินเที่ยวในเมืองอิสตันบูล
บรรยากาศภายในเมือง
เสาฮิปโปโดรม ใช้ในการแข่งม้าในยุคโรมัน
น้ำพุไซเกอร์
วิวฝั่งอนาโตเลีย (เอเชีย)
คนตุรกีนิยมกินข้าวโพด
กาแฟตุรกี
คนตุรกีนิยมกินขนมปัง
สุเหร่าอาเกียโซเฟีย
รูปภาพพระเยซู ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่าสุเหร่าอาเกียโซเฟียเคยเป็นโบสถ์คริสต์มาก่อน
อิสตันบูล (İstanbul) เดิมชื่อ คอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกีและทวีปยุโรป (นับรวมเขตเมืองฝั่งเอเชีย) เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศตุรกี
อิสตันบูลเป็นเมืองเชื่อมทวีปยูเรเชียโดยตั้งระหว่างช่องแคบบอสพอรัส (ซึ่งแยกยุโรปและเอเชีย) ระหว่างทะเลมาร์มาราและทะเลดำ เมืองอิสตันบูลมีชื่อเสียงทางด้านศูนย์กลางการค้าและประวัติศาสตร์ของฝั่งยุโรป ประมาณหนึ่งในสามของประชากรอาศัยอยู่ทางอานาโตเลียหรือฝั่งทวีปเอเชีย โดยมีประชากรทั้งหมดประมาณ 15 ล้านคน
อิสตันบูลเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโดยจัดว่าเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกและเป็นเมืองในยุโรปที่ใหญ่ที่สุด เมืองเป็นศูนย์กลางการปกครองของเทศบาลนครอิสตันบูล อิสตันบูลถือว่าเป็นสะพานเชื่อมระหว่างซีกโลกตะวันออกและตะวันตก
ความประทับใจสำหรับผมคือ การได้มาเห็นเมืองในประวัติศาสตร์ที่มีอายุนับพันๆปีแบบนี้ กลิ่นอายของยุคโบราณยังคงหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่มากมายหลายแห่งถูกสร้างขึ้นในสมัยจักรวรรดิไบแซนไทน์ แต่ยังคงความสมบูรณ์แบบจนมาถึงทุกวันนี้ “สำหรับผม มันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมาก”
อีกทั้งการได้มาเห็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนา ยิ่งทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เดินเที่ยวอยู่ภายในเมือง เดินไปมุมนู้นเห็นแบบนี้ เดินไปมุมนี้เห็นแบบนู้น ความหลากหลายคือเสน่ห์ของโลกใบนี้ ความแตกต่างคือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมออกเดินทาง
นอกจากเมืองที่คงความขลังและความหลากหลายทางวัฒนธรรมแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผมชอบคือ การได้มาเห็นฝูงเรือขนาดใหญ่มากมายแล่นอยู่ในทะเลมามาร่า มีทั้งเรือเดินสมุทร เรือเฟอร์รี่ เรือขนส่งสินค้า เรือนำเที่ยว เรือโดยสาร ซึ่งทำให้กรุงอิสตันบูลกลายเป็นจุดใจกลางการค้าที่สำคัญที่สุดของโลก เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้ากันระหว่างทวีปยุโรป-เอเชีย
สิ่งที่คิดกับความเป็นจริงช่างแตกต่าง
ตอนนั้นผมมองแค่รูปภาพ แต่ตอนนี้ผมได้มาเห็นของจริง มีทั้งภาพ เสียง อารมณ์ ความรู้สึก และกลิ่น กลิ่นที่ลอยมาเตะจมูกของผมทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปยังยุคจักรวรรดิโรมันเมื่อสองพันปีที่แล้ว