ที่เที่ยวตุรกี ไปคนเดียว ก็เที่ยวได้

เที่ยวในตุรกี

พระราชวังทอปกาปี (Topkapi Palace)

พระราชวังทอปกาปี เรียกได้ว่าเป็นพระราชวังที่สวยงามและหรูหราที่สุดแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนี่งในมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก้เลยทีเดียว ด้วยเนื้อที่ที่กว้างขวางถึง 700,000 ตารางเมตรนี้ เดิมทีเคยเป็นที่ประทับขององค์สุลต่านนานกว่า 3 ศตวรรษ ลวดลายและดีไซน์ภายในของพระราชวังนี้จึงมีรายละเอียดและดีเทลที่ค่อนข้างจะงดงามตระการตามากๆ เลยทีเดียว

และในปัจจุบัน พระราชวังทอปกาปีได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเพื่อให้ผู้คนที่สนใจและนักท่องเที่ยวได้เข้าไปชื่นชมความงดงามอลังการที่มากไปด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ มากมาย เช่น เครื่องประดับตกแต่ง และ เครื่องทรงสุลต่าน เป็นต้น นอกจากนี้พระราชวังทอปกาปียังเป็นจุดชมวิวของช่องแคบบอสฟอรัสที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย มาเที่ยวประเทศตุรกีทั้งที ไม่แวะที่นี่ไม่ได้แล้วนะ

แกรนด์ บาซาร์ (Grand Brazar)

สถานที่ถัดไปเรามาเอาใจนักช็อปกันบ้างดีกว่า ตลาดแกรนด์ บาซาร์ คือ ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองอิสตันบูล ภายในตลาดแห่งนี้มีร้านค้าอยู่มากมายกว่า 4,000 ร้านกันเลยทีเดียว ก็เดินกันให้สะใจกันไปเลยสิคะ! ตลาดนี้เป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักท่องเที่ยว เพราะที่นี่ขายสินค้าหลากหลายมากๆ ชนิดที่ว่าตาลายสุดๆ มองไปทางไหนก็น่าซื้อ ของมันต้องมี!

ถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังตามหาของฝาก ไปฝากครอบครัวหรือเพื่อนล่ะก็ แนะนำให้ซื้อจากที่นี่ไปเลย เพราะเมืองอื่นๆ นั้นส่วนมากจะหาร้านค้าแบบนี้ค่อนข้างยาก ไม่ควรพลาดเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ถ้วย จาน ชามเซรามิกลวดลายสวยๆ หรือแม้กระทั่งเครื่องหนัง ที่นี่ก็มีครบมากๆ เลย

น้ำตกเกลือปามุคคาเล่ (Pamukkale)

มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติกันบ้างดีกว่า เรียกได้ว่ามีความสวยงามมากอีกที่หนึ่งในประเทศตุรกีเชียวนะ ใครที่ชอบความมินิมอล น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้รับรองมาแล้วต้องถูกใจแน่ๆ ที่นี่คือ ปราสาทปุยฝ้าย หรือ น้ำตกน้ำเกลือปามุคคาเล่นั่นเอง

ในภาษาตุรกี คำว่า Pamuk แปลว่า ปุยฝ้าย ส่วนคำว่า Kale แปลว่า ปราสาท เมื่อรวมกันจึงแปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย ขาวสะอาดสมชื่อเขาเลย นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้ยังได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 อีกด้วย

น้ำตกน้ำเกลือปามุคคาเล่แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่มีใครเหมือน น้ำตกเป็นหินปูสีขาวที่เกิดจากธารน้ำใต้ดินมีแร่หินปูน แคลเซียมออกไซด์ ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลลงมาจากภูเขาคาลดากึ เอ่อล้นขึ้นมาเหนือพื้นดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามลักษะของภูมิประเทศตุรกี จนเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติที่สวยงามราวช่างปั้นแบบนี้นั่นเอง ช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปมากที่สุดก็คือ ฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากระดับน้ำจะขึ้นจนเอ่อล้นแอ่ง และที่สำคัญอากาศก็เย็นสบายเหมาะแก่การมาพักผ่อนมากๆ เลยทีเดียว

นครโบราณ (Hierapolis Pamukkale)

เมื่อเดินทางไปปราสาทปุยฝ้ายแล้วก็ต้องแวะมาที่โรงละครกรีกโบราณครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ ที่นครโบราณ เฮียราโปลิส นับว่าเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์อีกหนึ่งแห่งที่ยังคงความสวยงามไว้ได้ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับโบราณสถานอีกหลายแห่งในตุรกี

เฮียราโปลิสก่อตั้งโดยราชาแห่งเพอร์กามอนราว 200 ปีก่อนคริสตกาลเพื่อเป็นเมืองแห่งสปาสำหรับผู้รักสุขภาพในยุคนั้น ต่อมาก็ได้อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมัน และในภายหลังกษัตริย์คอนสแตนตินเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ เมืองแห่งนี้ก็กลายเป็นศูนย์กลางทางศาสนาแห่งจักรวรรดิโรมันตะวันออก และเป็นที่ประทับของพระชั้นผู้ใหญ่อีกด้วย

เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia)

มาถึงสถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของประเทศตุรกีเลยก็ว่าได้ เมื่อมาเยือนประเทศนี้ทั้งทีก็ห้ามพลาดที่จะแวะมาที่ เมืองคัปปาโดเกียด้วยประการทั้งปวง เพื่อนๆ หลายคนคงจะคุ้นเคยกับภาพบอลลูนสวยๆ ล่องลอยเต็มท้องฟ้ากันมาบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะค่ะ ไม่ว่าใครที่เดินทางมาที่นี่ก็ต้องตกหลุมรักความสวยงามจนอยากอยู่ต่ออีกแน่นอน

ในปีค.ศ. 1985 ทางยูเนสโกได้ประกาศให้ที่นี่เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกีอีกด้วย

สถานที่แห่งนี้นับเป็นสถานที่ยอดฮิตตลอดกาลของประเทศตุรกีกันเลยทีเดียว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและเต็มไปด้วยบอลลูนหลากหลายสีสันและรูปทรงต่างๆ ที่เหมือนกับได้หลุดเข้าไปในโลกของเทพนิยายเรื่องหนึ่ง จนเป็นที่มาของชื่อที่ว่า ปล่องนางฟ้า ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวได้ไม่ยาก บางคนถึงกับพูดไว้ว่า ต้องมาให้เห็นกับตาตัวเองก่อนตาย เพราะสถานที่จริงนั้นสวยงามกว่าในรูปอีกหลายเท่า! ไม่มาไม่ได้แล้วนะ

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum)

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์โบราณเก่าแก่อีกหนึ่งที่ ที่มีอายุราว 8 ล้านปี จึงทำให้บริเวณพื้นที่นี้เกิดการกัดกร่อนของลม แท่งหินถูกกัดเซาะและกลายเป็นรูปทรงคล้ายปล่องไฟ รวมไปถึงรูปทรงต่างๆ มากมาย ทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหินรูปทรงแปลกใหม่และเกิดเป็นความน่าสนใจในความสวยงามของสิ่งต่างๆ ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นได้อย่างลงตัว

ในอดีต พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ ซึ่งชาวคริสต์ในสมัยนั้นขุดถ้ำเอาไว้เป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ เนื่องจากต้องการให้สถานที่เหล่านี้เป็นที่เผยแพร่ศาสนาและเพื่อป้องกันภัยจากความขัดแย้งของลัทธิต่างๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ในตอนนั้น

เมื่อมาเยี่ยมที่นี่แล้วนอกจากจะได้ชมความสวยงามแปลกตาของธรรมชาติแล้วยังได้เรียนรู้เรื่องราววิถีชีวิตความเป็นอยู่ของบรรพบุรุษชาวคัปปาโดเชียนที่เคยใช้ชีวิตอยู่บนพื้นที่แห่งนี้อีกด้วย

ห้องสมุดเซลซุส (The Library of Celsius)

ห้องสมุดเซลซุสเป็นอีกหนึ่งสถานที่มีความสวยงามและขนาดใหญ่มาก มีทางเข้า 3 ทาง บริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ เป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่าสายที่อินหนังเทพเจ้าและชื่นชอบวิชาประวัติศาสตร์ต้องชอบมากแน่ๆ ถึงในปัจจุบันจะเหลือเพียงเฉพาะด้านหน้าของอาคารเท่านั้นแต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงความงดงามและถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้อย่างดี

ห้องสมุดเซลซุส เป็นอาคาร 2 ชั้น สร้างในปี ค.ศ.114-117 โดย ดิเบริอุส จูลิอุส อาควิลา เพื่ออุทิศให้กับ ‘ดิเบริอุส จูลิอุส เซลซุส’ ผู้เป็นบิดา โดยฝังโลงศพหินเอาไว้ที่ใต้หอสมุดและใช้เป็นแหล่งรวบรวมความรู้ แสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่ในอดีต ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาในยุคคริสตกาลราวๆ ยุคโลหะ จึงทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีประโยชน์ในด้านของการศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ หากใครที่ชื่นชอบแนวประวัติศาสตร์แล้วละก็ไม่ควรพลาดเดินทางมาท่องเที่ยวที่สถานที่แห่งนี้เลย

อีกเรื่องสุดงู้ยในประเทศตุรกีก็คือ น้องแมวจรที่นี่อ้วนท้วนสมบูรณ์มากๆ จากที่เห็นได้ในรูปเลย ไอต้าวก้อนหนมปัง! เหล่าทาสเตรียมใจเหลวได้เลยเมื่อมาเยือนประเทศนี้ เพราะน้องจะอยู่ในทุกที่ (ทุกที่จริงๆ) จนมีฉายาว่า ตุรกี สวรรค์ของแมวจรกันเลยทีเดียวค่ะ😻💗

เมืองตากอากาศริมทะเลเมดิเตอเรเนียน อันตัลยา (Antalya)

มาแวะเมืองอันตัลยากันบ้างดีกว่าค่ะ อันตัลยา หรือ อาลานยา เป็นเมืองหนึ่งในประเทศตุรกีที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุด หรือ ที่ชาวตุรกีเรียกกันว่า เมืองตากอากาศริมทะลเมดิเตอเรเนียน เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเดินทางเพื่อมาพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศทะเลและภูเขาล้อมรอบอันสวยงาม โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ นิยมเดินชมรอบๆ และ ล่องเรือเพื่อชมความสวยงามของน้ำทะเลและวิวทิวทัศน์รอบๆ ชายหาด Konyaalti Beach หรือ Aspendos นั่นเอง

สถานที่ที่น่าสนใจอีกหนึ่งที่นั่นก็คือ ประภาคาร อันตัลยา ที่สร้างอยู่ติดกับท่าเรือ ประภาคารนี้มีความสูงราว 20 เมตร ซึ่งประภาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในราวๆปีพ.ศ. 2473 นอกจากนี้ยังได้ชมวิวบรรยากาศท่าเรือและพระอาทิตย์ตกดินที่แสนโรแมนติกที่นี่อีกด้วย