5 ที่เที่ยวตุรกี ไปคนเดียว ก็เที่ยวได้

สุเหร่าโซเฟีย, อิสตันบูล (Hagia Sophia)
เริ่มกันด้วยสถานที่แรกในเมืองอิสตันบูล นั่นก็คือ สุเหร่าโซเฟีย หรือ วิหารเซนต์โซเฟีย หรือที่ ในภาษาตุรกีจะเรียกว่า อายาโซเฟีย เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอิสตันบูล การตกแต่งภายในจะใช้สีฟ้าเป็นโทนสีหลัก และนอกจากนี้ยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สร้างขึ้นในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน ในจักรวรรดิไบแซนไทน์อีกด้วย

สุเหร่าโซเฟียนับเป็นสิ่งก่อสร้างจากฝีมือของมนุษย์ที่มีความสวยงามอลังการมากที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมากและอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงประเทศตุรกีเลยก็ว่าได้ โดยแต่ก่อนภายในสถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ ต่อมาได้ใช้เป็นสุเหร่าเพื่อการละหมาดในภายหลัง และในปัจจุบันได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้คนได้เข้าชม

ย่านชาวยิวแบบดั้งเดิม บาลัท, อิสตันบูล (Balat)
เยี่ยมชมสุเหร่าโซเฟียกันแล้วก็แวะมา relax กันที่ ย่านบาลัท ที่เรียกได้ว่าเป็นย่านที่มีสีสันฉูดฉาดคัลเลอร์ฟูลสุดๆ ในเมืองอิสตันบูลกันเลยทีเดียว ด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เมื่อก้าวเข้ามาก้าวแรกก็จะสังเกตเห็นถนนที่โรยไปด้วยก้อนหินก้อนใหญ่ๆ เต็มทางเดิน และเมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็จะเห็นความสวยงามของอาคารบ้านเรือนที่เป็นของชาวยิวที่ใช้ไม้เป็นวัสดุในการก่อสร้าง ถูกใจสายคอนเท้นต์สุดๆ เพราะไม่ว่าจะยืนถ่ายรูปมุมไหนก็ปังแน่นอน กลับไปลงรูปอวดเพื่อนๆ ในไอจีได้อีกเพียบ

ย่านบาลัท เป็นย่านที่ค่อนข้างอยู่ในที่ลับตา ที่ตั้งจะหลบซ่อนออกมาจากตัวเมืองและอยู่ ใกล้กับริมท่าเรือ Eminönü และ เส้นทางน้ำ Golden Horn

ในปัจจุบันนี้ยังคงเป็นที่นิยมในการมาท่องเที่ยวอยู่มาก และย่านนี้ส่วนใหญ่เริ่มมีธุรกิจคาเฟ่และร้านอาหารมากมาย หากใครที่ต้องการจะพักเหนื่อยและเที่ยวชมบ้านไม้ที่มีสีสันสวยงามที่มีอายุกว่า 200 ปีเหล่านี้ ห้ามพลาดเลยนะ

พระราชวังทอปกาปี (Topkapi Palace)
พระราชวังทอปกาปี เรียกได้ว่าเป็นพระราชวังที่สวยงามและหรูหราที่สุดแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนี่งในมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก้เลยทีเดียว ด้วยเนื้อที่ที่กว้างขวางถึง 700,000 ตารางเมตรนี้ เดิมทีเคยเป็นที่ประทับขององค์สุลต่านนานกว่า 3 ศตวรรษ ลวดลายและดีไซน์ภายในของพระราชวังนี้จึงมีรายละเอียดและดีเทลที่ค่อนข้างจะงดงามตระการตามากๆ เลยทีเดียว

และในปัจจุบัน พระราชวังทอปกาปีได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเพื่อให้ผู้คนที่สนใจและนักท่องเที่ยวได้เข้าไปชื่นชมความงดงามอลังการที่มากไปด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ มากมาย เช่น เครื่องประดับตกแต่ง และ เครื่องทรงสุลต่าน เป็นต้น นอกจากนี้พระราชวังทอปกาปียังเป็นจุดชมวิวของช่องแคบบอสฟอรัสที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย มาเที่ยวประเทศตุรกีทั้งที ไม่แวะที่นี่ไม่ได้แล้วนะ

แกรนด์ บาซาร์ (Grand Brazar)
สถานที่ถัดไปเรามาเอาใจนักช็อปกันบ้างดีกว่า ตลาดแกรนด์ บาซาร์ คือ ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองอิสตันบูล ภายในตลาดแห่งนี้มีร้านค้าอยู่มากมายกว่า 4,000 ร้านกันเลยทีเดียว ก็เดินกันให้สะใจกันไปเลยสิคะ! ตลาดนี้เป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักท่องเที่ยว เพราะที่นี่ขายสินค้าหลากหลายมากๆ ชนิดที่ว่าตาลายสุดๆ มองไปทางไหนก็น่าซื้อ ของมันต้องมี!

ถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังตามหาของฝาก ไปฝากครอบครัวหรือเพื่อนล่ะก็ แนะนำให้ซื้อจากที่นี่ไปเลย เพราะเมืองอื่นๆ นั้นส่วนมากจะหาร้านค้าแบบนี้ค่อนข้างยาก ไม่ควรพลาดเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ถ้วย จาน ชามเซรามิกลวดลายสวยๆ หรือแม้กระทั่งเครื่องหนัง ที่นี่ก็มีครบมากๆ เลย

น้ำตกเกลือปามุคคาเล่ (Pamukkale)
มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติกันบ้างดีกว่า เรียกได้ว่ามีความสวยงามมากอีกที่หนึ่งในประเทศตุรกีเชียวนะ ใครที่ชอบความมินิมอล น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้รับรองมาแล้วต้องถูกใจแน่ๆ ที่นี่คือ ปราสาทปุยฝ้าย หรือ น้ำตกน้ำเกลือปามุคคาเล่นั่นเอง

ในภาษาตุรกี คำว่า Pamuk แปลว่า ปุยฝ้าย ส่วนคำว่า Kale แปลว่า ปราสาท เมื่อรวมกันจึงแปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย ขาวสะอาดสมชื่อเขาเลย นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้ยังได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 อีกด้วย

น้ำตกน้ำเกลือปามุคคาเล่แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่มีใครเหมือน น้ำตกเป็นหินปูสีขาวที่เกิดจากธารน้ำใต้ดินมีแร่หินปูน แคลเซียมออกไซด์ ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลลงมาจากภูเขาคาลดากึ เอ่อล้นขึ้นมาเหนือพื้นดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามลักษะของภูมิประเทศตุรกี จนเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติที่สวยงามราวช่างปั้นแบบนี้นั่นเอง ช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปมากที่สุดก็คือ ฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากระดับน้ำจะขึ้นจนเอ่อล้นแอ่ง และที่สำคัญอากาศก็เย็นสบายเหมาะแก่การมาพักผ่อนมากๆ เลยทีเดียว

นครโบราณ (Hierapolis Pamukkale)
เมื่อเดินทางไปปราสาทปุยฝ้ายแล้วก็ต้องแวะมาที่โรงละครกรีกโบราณครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ ที่นครโบราณ เฮียราโปลิส นับว่าเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์อีกหนึ่งแห่งที่ยังคงความสวยงามไว้ได้ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับโบราณสถานอีกหลายแห่งในตุรกี

เฮียราโปลิสก่อตั้งโดยราชาแห่งเพอร์กามอนราว 200 ปีก่อนคริสตกาลเพื่อเป็นเมืองแห่งสปาสำหรับผู้รักสุขภาพในยุคนั้น ต่อมาก็ได้อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมัน และในภายหลังกษัตริย์คอนสแตนตินเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ เมืองแห่งนี้ก็กลายเป็นศูนย์กลางทางศาสนาแห่งจักรวรรดิโรมันตะวันออก และเป็นที่ประทับของพระชั้นผู้ใหญ่อีกด้วย