10 ที่เที่ยวต้องไปเยือนแห่งอิสตันบูล

10 ที่เที่ยวต้องไปเยือนแห่งอิสตันบูล

อิสตันบูล เมืองที่เรารู้จักกันดีตั้งแต่สมัยเรียนวิชาประวัติศาสตร์ภายใต้ชื่อคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดและเป็นเมืองหน้าด่านอันดับหนึ่งของประเทศตุรกี ทั้งที่ไม่ได้เป็นเมืองหลวง นอกจากนี้การที่อิสตันบูลตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้มันเป็นเมืองจำนวนน้อยนิดในโลกนี้ที่มีอาณาเขตอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอานาโตเลีย) นั่นเอง น่าทึ่งพอไหม? ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทำให้เมืองนี้มีสเน่ห์ด้านการท่องเที่ยวเหลือล้น 10 สถานที่นี้คือไฮไลท์ที่ควรเก็บให้ครบ

บลูมอสก์ อิสตันบูล ตุรกี

1. บลูมอสก์ (Blue Mosque)

สถานที่เที่ยวอันดับหนึ่งแห่งอิสตันบูล เป็นสัญญลักษณ์ เป็นไอคอนของเมือง แล้วยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านใน และถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาห์เหม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี

สุเหร่าเซนต์โซเฟีย อิสตันบูล ตุรกี

2. สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia)

หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา นิกายออร์โธดอกส์ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่าโดยสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง และ ถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง จุดเด่นอยู่ที่ยอดโดมขนาดมหึมากลางวิหาร และนับเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์

พระราชวังทอปกาปึ อิสตันบูล ตุรกี

3. พระราชวังทอปกาปึ (Tokapi Palace) 

ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมัน ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปิกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่าอาทิ เช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่าน

มัสยิดซิวเลย์มานีเย อิสตันบูล ตุรกี

4. มัสยิดซิวเลย์มานีเย (Suleymaniye Mosque) 

มัสยิดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอิสตันบูลรองจากฮาเยียโซเฟีย เห็นชื่อเรียกยากแต่ความจริงมีความเชื่อมโยงกับคำว่า “สุลัยมาน” หรือ “โซโลมอน” ที่เราคุ้นกว่า เพราะมัสยิดแห่งนี้สร้างตามพระบรมราชโองการของสุลต่านสุลัยมานแห่งจักรวรรดิออตโตมัน ก่อสร้างระหว่าง ค.ศ. 1550 ถึง 1557 เป็นสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม สะท้อนการที่จักรวรรดิออตโตมัน พิชิตจักรวรรดิไบแซนไทน์ได้ การที่เป็นต้นแบบของมัสยิดในแบบมุสลิม อาจมีส่วนให้มัสยิดอื่นที่สร้างตามหลังมีความอลังกว่า ประดับประดาหรูหรากว่า อย่างเช่นบลูมอสก์ ทำให้โปรแกรมทัวร์ไม่ค่อยพาไปชมที่นี่ แต่ในด้านคุณค่าทางประวัติศาสตร์และความใหญ่โต มันเป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาด

แกรนด์บาซาร์ อิสตันบูล ตุรกี

5. แกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar)

ตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก เหมือนเดินตลาดจตุจักรที่อยู่ใต้หลังคา แต่ได้ความขลังของความเก่าแก่อยู่คู่ชาวเมืองมาหลายร้อยปี เป็นอีกแหล่งที่ทัวร์ไม่ค่อยพาไป เพราะมักจะพาไปที่ Spice Market แทน

พระราชวังโดลมาบาเช อิสตันบูล ตุรกี

6. พระราชวังโดลมาบาเช (Dolmabahce Palace)

พระราชวังหินอ่อนตามศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ตัวอาคารยาวถึง 600 เมตร ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรป ไฮไลท์คือโคมไฟแชนเดอเลียร์ ของขวัญจากอังกฤษทำจากแก้วคริสตัลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกหนักถึง 5,000 กิโลกรัม ประดับดวงไฟ 750 ดวง มีพรมทอมือผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาวางประดับไว้มากมาย ทุกเรือนจะชี้บอกเวลา 09.06 น. อ้นเป็นเวลาที่ประธานาธิบดีมุสตาฟา เคมาล หรืออตาเติร์กถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2484

อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน อิสตันบูล ตุรกี

7. อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) 

อุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 กว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์ มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือ เสาเมดูซ่ากลับหัว

ช่องแคบบอสฟอรัส อิสตันบูล ตุรกี

8. ช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus) 

ช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (Black Sea) กับทะเลมาร์มาร่า (Marmara) โดยมีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างเริ่มตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ความพิเศษของการนั่งเรือลอดช่องแคบนี้คือเหมือนการผ่ากลาง 2 ทวีปเพราะคั่นระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเซียนั่นเอง

หอคอย อิสตันบูล ตุรกี

9. หอคอยกาลาตา (Galata Tower)  หากใครไปเที่ยวเมืองไหนแล้วมองหาจุดชมวิวจากมุมสูง ต้องเป็นที่นี่เลย อดีตหอสังเกตุการณ์แห่งนี้อยู่อีกฟากของแหล่งที่เที่ยวมีสะพานกาลาตาเชื่อมระหว่าง 2 ดินแดน แต่สำหรับผู้ที่นั่งเรือลอดช่องแคบซึ่งจะไปจอดที่ฟากตรงข้ามอยู่แล้ว เมื่อขึ้นรถรางกลับมาสามารถแวะชมวิวจากบนหอคอยได้ ซึ่งการอยู่คนละฟากทำให้ได้เห็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโดยมีแม่น้ำและสะพานเป็นฉากหน้า แน่นอนว่าช่วงเวลาชมวิวสวยที่สุดก็คือเมื่อพระอาทิตย์ตก เพราะจะได้เห็นทั้งตอนสว่าง และตอนค่อยๆ มืดลงแล้วมีแสงไฟยามค่ำคืนขึ้นมาแทน

Tulip Festival เทศกาลดอกทิวลิป อิสตันบูล ตุรกี

10. เทศกาลดอกทิวลิป (Tulip Festival) อย่าคิดว่าทิวลิปต้องไปที่ประเทศเนเธอร์แลนด์เท่านั้น เพราะความจริง ประเทศตุรกี เป็นต้นกำเนิดของดอกทิวลิป! แต่เสียเปรียบตรงที่เริ่มจัดไม่นานมานี้เอง คือปี 2006 ในเดือนเมษายนของทุกปี จะมีเทศกาลดอกทิวลิปให้ชมเป็นล้าน ๆ ดอกที่ Emirgan Park ปีนี้จัดระหว่าง 26 มีนาคม ถึง 30 เมษายน

Kybele Hotel อิสตันบูล ตุรกี

11. Kybele Hotel แถมท้าย Exclusive โรงแรมบูทิคแห่งนี้ที่อยู่ย่านใจกลางเมือง มีสีสันฉูดฉาด ถ่ายรูปแล้วสวยทุกมุม แถมยังมีร้านกาแฟที่มีตะเกียงห้อยเต็มเพดาน ชอบร้านเก๋ๆ โรงแรมแนวติสต์ ขอแนะนำ