เที่ยวตุรกี ประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ วัฒนธรรมที่แปลกใหม่ การเดินทางที่น่าสนใจ ศิลปะ และสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจ วันนี้เรารวมเหตุผลที่คุณควรไปเที่ยวตุรกีสักครั้งในชีวิตมาให้ที่นี่

หากคุณสนใจเที่ยวตุรกี ประเทศที่มีหลายสิ่งที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนในโลก สำหรับคนที่สนใจจะหาที่เที่ยวเปิดประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ การเที่ยวตุรกีเป็นหนึ่ง destination ที่น่าสนใจจนอยากชวนคุณลองมาเที่ยวสักครั้งในชีวิต และนี่คือรีวิวจากทริปของเรา

1. เที่ยวบอลลูนที่ดีที่สุดในโลกต้องเที่ยวตุรกี
   แม้การเที่ยวบอลลูนจะไม่ได้มีที่ตุรกีเพียงประเทศเดียว แต่เว็บท่องเที่ยวเกือบทั้งโลกจะให้แนะนำว่าการขึ้นบอลลูนที่ตุรกี เป็น The Best! ในโลกนี้เลย ทำไมล่ะ?

ส่วนหนึ่งของประสบการณ์เที่ยวขึ้นบอลลูนที่ดี ไม่ใช่แค่ขึ้นไปเสียววิวด้านล่างต้องดีด้วย ที่คัปปาโดเกียนั้นมีสิ่งที่การขึ้นบอลลูนที่อื่นในโลกไม่มีนั่นคือ Fairy Chimneys หรือ ปล่องไฟนางฟ้า ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติจากการกัดเซาะของลมและพายุผ่านกาลเวลานับล้านปี ทำให้หินและภูเขาต่างๆ เกิดรูปทรงและช่องรูปต่างๆ คล้ายเป็นที่อาศัยของเหล่า Fairy

ที่ คัปปาโดเกีย ตุรกี นั้นไม่เพียงแต่จะมี Fairy Chimney เป็นวิวที่สุดยอดของการขึ้นบอลลูนแล้ว หินต่างๆ ยังเกิดจากการปะทุและทับถมของลาวาในอดีต ตอนเกิดการระเบิดของภูเขาไฟลาวาได้กระจายตัวออกไปหลายร้อยไมล์ ทำให้กลายเป็นหนึ่งแห่งที่สวยงามหาที่ใดทดแทนไม่ได้กระทั่ง UNESCO ได้บันทึกไว้เข้าปกป้องเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว

2. เที่ยวตุรกี ประเทศเดียวได้ 2 ทวีป
   อิสตันบูล (Istanbul) เมืองหลวงเก่าที่มีพื้นที่มี 2 ทวีป แยกกันด้วยช่องแคบบอสพอรัส (Bosporus) ซึ่งเป็นน้ำทะเลที่มีขนาดกว้างประมาณแม่น้ำเจ้าพระยาบ้านเรานี่เอง อารมณ์เหมือนฝั่งธนฯเป็นยุโรป ข้ามสะพานพระราม 8 มานิดเดียวก็เป็นฝั่งพระนคร (เอเชีย) แต่น้ำนั้นคือน้ำทะเล

มุมนี้ภาพแรก เราจะเห็นช่องแคบบอสพอรัส หรือ ช่องแคบบอสฟอรัส หรือ ช่องแคบอิสตันบูล เป็นช่องแคบที่กั้นระหว่างตุรกีเธรซที่อยู่ในทวีปยุโรปกับคาบสมุทรอานาโตเลียในทวีปเอเชีย

3. ความขัดแย้งที่ทิ้งมรดกโลกที่สวยงาม
   ที่ตุรกีจะเห็นการผสมผสานความหลากหลาย ทั้งเชื้อชาติ วัฒนธรรม อาหาร และส่วนสำคัญคือศาสนา

แม้ตุรกีจะเป็นประเทศอิสลาม แต่ก็เคยเป็นเมืองศาสนาคริสต์มาก่อน ซึ่งถูกกำจัดออกจากประเทศในภายหลัง ทำให้สิ่งหลงเหลือจากความขัดแย้งไว้เป็นประวัติศาสตร์วัฒนธรรมโลก มีสถานที่ทางศาสนาหลายแห่งที่มีสัญลักษณ์ไม้กางเขน (คริสตจักร) แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นมัสยิด (อิสลาม) ไปแล้ว ความขัดแย้งที่สิ้นสุดแล้วนี้ทำให้ ตุรกีมีมรดกโลกทางวัฒนธรรมถึง 18 รายชื่อ

ที่ Istanbul นั้นมี 1 Site (1 มรดกโลก) ด้านวัฒนธรรมที่ชื่อว่า Historic Areas of Istanbul ​ซึ่งไม่ได้เป็นสถานที่เดียว แต่มากถึง 8 สถานที่ครอบคลุมวงกว้างของ Istanbul หนึ่งในนั้นมี 2 ที่ยืนประชันหน้ากันระหว่าง โบสถ์คริสต์ vs มัสยิดอิสลาม นั่นคือ Hagia Sophia vs Blue Mosque

4. Hagia Sophia สถาปัตยกรรมที่ครองความยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนับพันปี แต่กลับไม่ได้รับใช้ศาสนาที่ก่อสร้าง
   ตามด้านบน Hagia Sophia หรือ วิหารเซนต์โซเฟีย ไม่เพียงเป็นโบสถ์คริสต์ธรรมดา แต่คือหนึ่งในตัวแทนความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมและวิศวกรรมของโลก ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์จากยุคโรมัน

วิหารเซนต์โซเฟีย ถือครองตำแหน่ง วิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ร่วมหนึ่งพันปี จนกระทั่งวิหารเซบียา (สเปน) มาแทนตำแหน่ง และยังเป็นวิหารที่มีโดมทรงโค้ง (Pendentive Dome) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนกระทั่งมหาวิหารมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (นครวาติกัน) สร้างเสร็จ

5. ตุรกีเป็นประเทศอิสลามที่เที่ยวง่าย เหมาะแก่การเริ่มต้นไปรอบโลก
   สำหรับคนไทยการเที่ยวเมืองฝรั่งอาจจะดูคุ้นมากกว่าประเทศแขกหรืออิสลาม หลายประเทศอิสลามนั้นมีกฏศาสนาที่เคร่งครัดถึงขนาดที่การทำผิดกฏอาจถูกจับกุมติดคุกเลยทีเดียว ทำให้นักท่องเที่ยวอาจเป็นกังวล แต่การเที่ยวตุรกีนั้นกลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง

ด้วยวัฒนธรรมที่ผสมผสาน แถมยังเป็นประเทศ 2 ทวีปอีก ทั้งศาสนา เชื้อชาติ ความเชื่อปนเปกันไปหมดในประเทศนี้ ทำให้ตุรกีเป็นประเทศอิสลามที่ไม่เคร่งครัดที่สุดประเทศหนึ่งแล้ว สัญลักษณ์ที่ชัดเจนมาก คือ ประเทศอิสลามนี้มีหมาจรทั่วเมืองไปหมด แม้ชาวตุรกีจะเป็นคนมุสลิมแต่ก็รักหมา ถึงกับมีบทความว่า คนตุรกีรุ่นใหม่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้าแล้ว บางคนมีแค่ผ้าโผกหัวที่ยังผูกมัดกับศาสนา (BBC) บ้างก็มี

เรื่องนี้คนเมืองพุทธแบบไทยๆ คงเข้าใจดี เราเองก็นับถือพุทธแบบอัตโนมัติ เกิดมาก็เป็นพุทธเลย แต่หลายคนก็ยังไหว้ศาล ไหว้ผี ไหว้เทพ ทั้งที่ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้ทำแบบนั้น ในขณะที่ศีล 5 ยังท่องไม่ได้เลย ชาวตุรกีก็อาจจะอารมณ์นั้น (แต่ไม่ได้อินดี้ถึงกับจะหาหมูย่างกินได้ในประเทศนี้นะ) แอดมินคิดว่า นี่ทำให้คนไทยกับคนตุรกีนั้น ดูไปก็มีอะไรคล้ายกันอยู่นะ