วันนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปเยือนดินแดนอารยธรรมโบราณ คิดดูแล้วกันว่า ดินแดนที่มีอารยธรรม 3 รูปแบบ ผสมผสานกันจะเป็นสถานที่ที่มีความงดงามเพียงใด ยิ่งเมือเพิ่มเติมความร่วมสมัยแบบยุคปัจจุบันเข้าไปด้วย เชื่อเถอะว่า “อัสตันบูล” เป็นเมืองคูลๆที่่คุณต้องหลงรักแน่นอน และนี่คือความประทับใจ เรื่องที่คุณจะได้รับจากเมือง 2 ทวีป 3 อาณาจักร แห่งนี้

ความวิจิตรแห่งอารยธรรมโบราณ

ถ้ากางแผ่นที่โลกดินแดนฝั่งซ้ายหรือฝั่งยุโรปของ อิสตันบูล นั้น เป็นที่ตั้งย่านเมืองเก่า อารยะธรรมล้ำค่า วิทยาการล้ำสมันในอดีตโบราณสถาน และมรดกประวัติศาสตร์ของโลก กระจุกรวมตัวกันในอาณาเขตนี้ ชนิดที่ว่า ถ้าใครขี้เกียจวางแผนเที่ยว แค่เดินไปเดินมาในย่านเมืองเก่าก็มีอะไรให้ดูได้ทั้งวัน

สิ่งหหัสจรรย์ของโลกยุคกลาง

มหาวิหารเซนต์ โซเฟีย หรือ ฮาเกีย โซเฟีย(Hagia Sofphia) หรือถ้าเป็นคนเตอร์กิซ ก็เรียกว่า อยาโซเฟีย วิหารแห่งนี้ คือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ซึ่งนี่ละคือจุดขายเพียงพอที่เราจะยินยอมต่อคิวยาวเหยียดเข้าชมให้เห็นเป็นบุญตา

ยลโฉมเมืองสองทวีป

อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า อิสตันบูล คือ เมืองเดียวมีสองทวีป ดังนั้นถ้ามองจากแผ่นที่อย่างเดียวจะไปตื่นเต้นอะไร วิธีที่เราจะมองเห็นภูมิศาสตร์เมืองได้ด้วยสายตาตัวเอง ลองข้ามฝากไปฝั่งเมืองใหม่ เป้าหมายสู่กาลาตา ทาวเวอร์ (Galaa Tower) หอคอยทรงกระบอกสูงเกือบ 70 เมตร หน้าตาราวกับหอคอยในเทพนิยายพี่น้องตระกูลกริมม์ ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดแล้วออกไปชื่นชมทัศนียภาพของอิสตัสบูลแบบ 360 องศา เห็นกับแบบชัดๆเต็มตาว่าแผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยช่องแคปบอสฟอรัส

พาสปอร์ตเล่มเดียวก็พอ

ใช่แล้ว! นักท่องเที่ยวไปทยไปเที่ยวตุรกี ไม่ต้องใช้วีซ่า… แถมตะลอนๆ ได้นานตั้ง 30 วัน
เชื่อว่านี่คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่ง สำหรับการเลือกไปเที่ยวต่างแดนของคนไทยหลายคนเพราะรู้สึกเบื่อ ขี้เกียจ กังวล กับการต้องของวีซ่าประเทศต่างๆ ดังนั้นใครยังไม่เคยไปยุโรปเลย การมาเยือน อิสตันบูล ก็เหมอนได้ซ้อมเที่ยวเมืองลูกครึ่งยุโรป-เอเชีย ไปพลางๆ แปะตราประทับในพาสปอร์ตให้มีสีสันไว้หน่อยแล้วค่อยต่อยอดไปเที่ยวประเทศวีซ่าอื่นๆในอนาคต