
H3C ผู้นำด้านโซลูชันดิจิทัล จัดงาน Digital Tour 2020 ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจัดไปแล้วก่อนหน้าที่ประเทศตุรกี ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย โดยเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม H3C Digital Tour 2020 คุณแกรี หวง ประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศและรองประธานอาวุโสของ H3C รวมถึงพันธมิตรและผู้ใช้งานในไทย ได้พูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยในอนาคต กิจกรรม H3C Digital Tour 2020 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมและเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตร่วมกับลูกค้าในต่างประเทศและพันธมิตรในระบบนิเวศ

คุณแกรี หวง กล่าวเปิดงานว่า ด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับความต้องการของไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล รวมถึงประสบการณ์เชิงลึกในประเทศที่สั่งสมมานานหลายปี H3C ได้เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ
“ในช่วงของการเติบโตอย่างรวดเร็วตลอดปีที่ผ่านมา H3C ได้ตอบสนองความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มดิจิทัลครบวงจรที่ประกอบด้วยโซลูชันเต็มรูปแบบ รวมถึงบริการทางเทคนิคที่ครอบคลุมสำหรับลูกค้าภาครัฐ โทรคมนาคม การศึกษา และภาคส่วนอื่น ๆ เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็ว” คุณแกรี หวง กล่าว
เมื่อปี 2562 บริษัทข้อมูลการตลาดระดับโลก International Data Corporation (IDC) ได้คาดการณ์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของไทยไว้ว่า กว่า 61% ของจีดีพีจะอยู่ในรูปแบบดิจิทัลภายในปี 2565 เมื่อถึงเวลานั้น การเติบโตในทุกอุตสาหกรรมจะขับเคลื่อนด้วยบริการ การดำเนินงาน และความสัมพันธ์แบบดิจิทัล และหนุนการใช้จ่ายด้านไอทีคิดเป็นมูลค่า 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ระหว่างปี 2562-2565 ดังนั้น บรรดาผู้นำธุรกิจในประเทศไทยจึงจำเป็นต้องหันมาใช้เทคโนโลยีเกิดใหม่เพื่อคว้าโอกาสจากการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลโฉมใหม่
การลงนามในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นการเริ่มต้นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยก่อให้เกิดความร่วมมือที่ทันสมัย ครอบคลุม มีคุณภาพ และสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่าย ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของทุกประเทศที่เข้าร่วม ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดย RCEP มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความพยายามของไทย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการบรรลุวิสัยทัศน์การพัฒนาสู่ยุคดิจิทัลและเสริมสร้างขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง