
ในบรรดาประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าทั้งหมด 30 ประเทศ เราว่า “ตุรกี” เป็นหนึ่งในประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด ถ้าไม่นับเรื่องความปลอดภัยที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว เพราะปัจจุบันต้องเรียกว่ายิ่งกว่าปลอดภัยอีก เนื่องจากมีการตรวจกระเป๋ากันอย่างเข้มงวดในทุกจุดของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงมีทหารสุดหล่อคอยสอดส่องดูแลรักษาความปลอดภัยให้อีกด้วย ฉะนั้นตุรกีจึงนับเป็นประเทศที่น่าเที่ยวมากทีเดียว เพราะมีภูมิประเทศสวยงามหลากหลาย ที่สำคัญงบประมาณของทริปยังถูกกว่าที่คิด สามารถหาตั๋วเครื่องบินในราคาหลักหมื่นกลางๆ ถึงหมื่นปลายๆ ได้แบบสบายๆ บางช่วงอาจเจอตั๋วโปรโมชั่นในราคาหลักหมื่นต้นๆ เสียด้วยซ้ำ! บวกกับค่าเงินที่ลดฮวบลงมาจากเมื่อก่อน ทำให้เราสามารถเที่ยวตุรกีได้ในงบประมาณที่อาจจะถูกกว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นเลยทีเดียว พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าโม้ ลองมาดูออเดิร์ฟ “4 จุดเช็คอินสุดปังของประเทศตุรกี” ที่เราจัดมาเสิร์ฟให้ก่อนดีกว่า แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะจัดตุรกีเป็นทริปต่อไปสำหรับครึ่งปีหลังนี้เลยหรือเปล่า ดีไม่ดีอาจเผลอคลิกจองตั๋วเครื่องบินไปตุรกีกันแบบไม่รู้ตัวเลยก็ได้นะเออ
Istanbul
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันใหม่ก่อนว่าอิสตันบูลไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศตุรกีเด้ออ แต่เป็นอดีตเมืองหลวงเก่าเมื่อครั้งสมัยจักรวรรดิออตโตมันนู้นนน เมืองหลวงของประเทศตุรกี ณ ปัจจุบัน คือ อังการา (Ankara) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองรองลงมาจากอิสตันบูล แต่ถึงแม้อังการาจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ยังเทมาเที่ยวกันที่อิสตันบูลอยู่ดี อาจเพราะอิสตันบูลมีสนามบินหลักที่รองรับไฟลท์บินนานาชาติอย่าง สนามบินอิสตันบูล อาตาตูร์ก (IST) รวมถึงเป็นเมืองที่มีความเจริญมากที่สุดในตุรกี แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งร่องรอยของประวัติศาสตร์มากมาย ฉะนั้นจึงมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ท่องเที่ยวได้เกือบทั้งปี เอาเป็นว่าใครมีแพลนมาตุรกีก็ต้องแวะมาเช็คอินที่นี่ก่อนเป็นจุดแรก เพราะยังไงก็ต้องบินมาลงที่อิสตันบูลอยู่แล้ว แนะนำว่าควรแวะเที่ยวสัก 3-4 วัน เป็นอย่างน้อยแล้วค่อยต่อเครื่องบินภายในประเทศ หรือนั่งรถบัสเพื่อไปเที่ยวยังเมืองอื่นๆ ต่อไปจ้า : )






Cappadocia
ถ้าอิสตันบูลเปรียบเสมือนเมืองหลักที่ต้องไป “คัปปาโดเกีย” ก็เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของประเทศตุรกีที่หลายคนต้องเคยเห็นรูปภาพผ่านตากันบ้างละ เพราะเมืองนี้นี่เองที่เป็นจุดปล่อยบอลลูนลอยละล่องเต็มท้องฟ้า เรียกว่าเป็นเมืองแรกๆ ของโลกที่มีจุดขายเป็นการนั่งบอลลูนเพื่อชื่นชมทัศนียภาพจากมุมสูงเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูสภาพอากาศเป็นหลักด้วยนะ เพราะบอลลูนจะขึ้นก็ต่อเมื่อท้องฟ้าเคลียร์และวันที่อากาศดีเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ฉะนั้นก็ต้องอาศัยดวงกันหน่อยละ ส่วนตัวเราเป็นพวก #คนซวย2018 อยู่แล้ว ก็เลยอดขึ้นบอลลูนไปตามระเบียบเพราะอากาศไม่ดีเลย ถึงแม้จะนอนที่คัปปาโดเกียถึงสองวันสองคืนก็ตาม T-T แต่ถ้าใครไปแล้วอดขึ้นบอลลูนเหมือนกันก็อย่าเสียใจไป เพราะคัปปาโดเกียยังมีไฮไลท์อื่นๆ รออยู่ เช่น ทัศนียภาพที่แสนแปลกตา บางคนถึงกับบอกว่ารู้สึกเหมือนยืนอยูบ่นดาวดวงอื่นยังไงยังงั้น รวมไปถึงการนอนในถ้ำก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าสัมผัส เพราะอดีตคนท้องถิ่นที่นี่มีวิถีชีวิตด้วยการอาศัยอยู่ในถ้ำนั่นเอง ฉะนั้นจึงนับเป็นอีกเมืองที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนประเทศตุรกีเด้ออ





Pamukkale
เราว่า “ปามุคคาเล” เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ควรมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง จะได้รู้ว่าศิลปินที่ฝีมือดีที่สุดในโลกนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ‘ธรรมชาติ’ นี่เอง โดยคำว่า “ปามุคคาเล” เป็นภาษาตุรกี แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย เกิดจากการตกตะกอนของหินปูน เมื่อทำปฏิกิริยากับอากาศนานเข้าก็กลายเป็นแอ่งหินปูนสีขาว พร้อมกับธารน้ำใต้ดินสีฟ้าที่จะไหลเอ่อขึ้นมามากเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ส่วนฤดูร้อนเป็นช่วงน้ำแล้ง ฉะนั้นถ้าไปช่วงนั้น อาจจะเจอน้ำน้อย เห็นแค่แอ่งหินปูนสีขาว แต่ก็ยังดูสวยแปลกตาอยู่ดี ใกล้กันยังมี นครโบราณเฮียราโปลิส ซึ่งเป็นซากเมืองโบราณสมัยกรีกตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันอีกด้วย ฉะนั้นราคาค่าเข้า 35 ลีรา ต่อคน จึงคุ้มค่ามาก นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องแวะมาเช็คอิน!




Ephesus
เนื่องจากตุรกีเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมและเชื้อชาติมาก นอกจากจะเป็น “ดินแดนสองทวีป” ที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ทั้งในทวีปเอเชียและทวีปยุโรปแล้ว วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนที่นี่ยังมีความแตกต่างกันอย่างกลมกลืนอีกด้วย ฉะนั้นความสนุกอีกอย่างของการเที่ยวตุรกีก็คือการได้ซึมซับกับบรรยากาศและวัฒนธรรมที่หลากหลาย “เอฟิซัส” เองก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สะท้อนเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากที่นี่เป็นเมืองกรีกโบราณซึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองในยุคสมัยโรมันเอฟิซัส ซึ่งว่ากันว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในยุคนั้นเลยทีเดียว ฉะนั้นเศษซากอารยธรรมที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบันจึงกลายมาเป็นสถานที่อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ให้นักท่องเที่ยวตาดำๆ อย่างเราได้มาสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรกรีกโบราณ ไฮไลท์คือ หอสมุดเซลซัส ที่ยังคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์และสวยงามอยู่มาก นอกจากนี้ตัวเมืองเซลจุก (Selcuk) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเอฟิซัสก็ยังเป็นเมืองที่น่าเที่ยวไม่น้อย ฉะนั้นแนะนำว่าควรแวะมาเช็คอินแล้วนอนค้างที่เมืองเซลจุกสักคืน รับรองว่าจะต้องประทับใจประเทศตุรกีเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน : )




