แผนที่ประเทศตุรกี ปักหมุดเมืองยอดนิยม พร้อม MODEL COURSE และวิธีการเดินทางเปลี่ยนเมืองด้วยตัวเอง

แผนที่ประเทศตุรกี ปักหมุดเมืองยอดนิยม

ถ้าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ “แผนที่” ก็คือหน้าต่างของการเดินทาง เพราะจะทำให้เรามองเห็นภาพรวมของประเทศนั้นๆ ทำให้เรามีความเข้าใจเบื้องต้นและสามารถวางแผนเที่ยวแบบลงลึกต่อไปได้อย่างไม่สับสนและไม่ทำแผนวกไปวนมา ฉะนั้นทุกครั้งเวลาทำแผนเที่ยว เราจะให้ความสำคัญกับ “แผนที่” เสมอ โพสต์นี้เราก็เลยตั้งใจจะทำแผนที่ประเทศตุรกีแบบเข้าใจง่ายๆ มาแชร์ให้คนที่มีแพลนจะไปเที่ยวตุรกี จะได้เริ่มต้นวางแผนเที่ยวของตัวเองได้อย่างเข้าใจว่าควรเริ่มต้นจากเมืองไหนต่อไปเมืองไหน โดยท้ายโพสต์เราจะใส่ตัวอย่างแผนเที่ยว (Model Course) ไว้ให้เป็นไอเดียในการนำไปประยุกต์ใช้กับแผนของตัวเองด้วย

ปักหมุดเมืองยอดนิยม

Istanbul : เมืองที่โด่งดังที่สุดในประเทศตุรกีจนหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเมืองหลวง แต่ความจริงแล้วอิสตันบูลเป็นเพียง “อดีตเมืองหลวง” ไม่ใช่เมืองหลวง ณ ปัจจุบัน แต่ก็เป็นเมืองใหญ่ที่มีคนอาศัยอยู่มากที่สุด รวมถึงเป็นเมืองที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ยุโรปและเอเชีย
รีวิว อิสตันบูล : เดินเล่น จิบกาแฟในคาเฟ่สุดคูลที่ “อิสตันบูล” วันฝนพรำ 

Ankara : เมืองใหญ่อันดับสองรองจากอิสตันบูล นับเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางธุรกิจและอุตสาหกรรม แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวเท่ากับอิสตันบูล

Canakkale : อดีตที่ตั้งของเมืองทรอย ถ้าใครไม่คุ้นหูให้ลองนึกถึงสงครามเมืองทรอยนั่นไง ที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Troy และทีมงานได้มีการมอบม้าไม้ที่ใช้ในเรื่องไว้ตั้งแสดงอยู่ในเมืองชานักกาเลด้วย ปัจจุบันเราจึงเรียกสถานที่นี้กันติดปากว่า “ม้าเมืองทรอย”

Selcuk (Ephesus) : Selcuk คือเมืองที่ตั้งของอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของตุรกีนั่นก็คือ เอฟิซัส (Ephesus) หรือเมืองกรีกโบราณที่เคยเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงโรมในสมัยจักรวรรดิโรมัน

Pamukkale : ปามุคคาเล หรือปราสาทปุยฝ้าย ตั้งอยู่ในเมืองเดนิซลี (Denizli) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศตุรกี เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการตกตะกอนของหินปูนกลายเป็นแอ่งปูนสีขาวหลายชั้นที่มีธารน้ำใต้ดินสีฟ้าไหลเอ่อขึ้นมา แนะนำว่าควรไปช่วงพระอาทิตย์ตก มันจะสวยงามตรึงใจเป็นอย่างมากกกกก
รีวิว ปามุคคาเล : ต้องมนต์ปราสาทปุยฝ้าย “ปามุคคาเล” เสน่ห์แห่งเมืองเดนิซลี

Cappadocia : เมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของประเทศตุรกี มีภูมิประเทศที่แสนแปลกตา เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟจนกลายเป็นปล่องเล็กปล่องน้อย กลายเป็นที่อาศัยและหลบภัยของคนในสมัยก่อน นอกจากนี้คัปปาโดเกียยังนับเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในตุรกีเพราะมีภาพจำที่ทำให้หลายคนใฝ่ฝันจะมาเยือนเป็นภาพบอลลูนนับสิบที่ลอยละล่องอยู่บนท้องฟ้าทั่วเมืองนั่นเอง
รีวิว คัปปาโดเกีย : นอนถ้ำ ขับรถเที่ยว แชะรูปสุดเฟี้ยวที่ “คัปปาโดเกีย”

Antalya : อันตัลยานับเป็นศูนย์กลางเมืองซัมเมอร์ของตุรกี มีอาณาเขตติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ฉะนั้นถ้าใครอยากสัมผัสบรรยากาศแสนร้อนแรงของแสงแดดในฤดูร้อนของตุรกีต้องลองไปเมืองอันตัลยาเลย

Fethiye :อีกหนึ่งเมืองซัมเมอร์ที่เราอยากแนะนำ เพราะดีกรีของเมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น Lycian Rock Tombs, Butterfly Balley รวมไปถึงกิจกรรมยอดฮิตที่สร้างชื่อให้เมืองเฟทิเยได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ ร่มร่อนหรือ Paragliding นั่นเอง
รีวิว เมืองซัมเมอร์ของตุรกี : พาเที่ยว 3 เมืองซัมเมอร์ของตุรกี ชวนไปสัมผัสทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแบบไม่ต้องขอวีซ่ากัน

Model Course ตัวอย่างแผนเที่ยวตุรกี 8 วัน 7 คืน

Day 1 : Istanbul (นอนอิสตันบูล)
Day 2 : Istanbul (นอนอิสตันบูล)
Day 3 : Istanbul (นอนอิสตันบูล)
Day 4 : Izmir > Selcuk (Ephesus) (นอนเซลจุค)
Day 5 : Pamukkale (นอนเดนิซลี)
Day 6 : Cappadocia (นอนคัปปาโดเกีย)
Day 7 : Cappadocia (นั่งบอลลูตอนเช้า) > Istanbul
Day 8 : Istanbul (กลับเมืองไทย)

วิธีการเดินทางเปลี่ยนเมือง

ประเทศตุรกีมีพื้นที่อาณาเขตกว้างใหญ่มากกกก ถ้าอยากเที่ยวแบบชิลๆ ก็ควรจัดแผนหลายวันหน่อย เพราะแค่นั่งรถเปลี่ยนเมืองก็ล่อไปหลายชั่วโมงแล้ว โชคดีที่สายการบินภายในประเทศของตุรกีราคาไม่แรงนัก บางช่วงถ้ามีโปรโมชั่นออกมาหรือจองล่วงหน้านานๆ ก็อาจจะจองได้ราคาหลักร้อยเลยทีเดียว ฉะนั้นวิธีการเดินทางเปลี่ยนเมืองในตุรกีจึงมีหลักๆ อยู่ 2 วิธี คือ รถบัส และเครื่องบิน อันที่จริงมีรถไฟด้วยนะ แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไร เพราะเขาทำเว็บไซต์ไม่ค่อยดีเลย ไม่สามารถหาข้อมูลหรือจองล่วงหน้าได้เหมือนญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นๆ ฉะนั้นความคิดเห็นส่วนตัวเราเลยรู้สึกว่าเดินทางด้วยวิธีการนั่งเครื่องบินภายในประเทศสะดวกสุด เพราะราคาไม่แพงมาก แถมประหยัดเวลา ทำให้เรามีเวลาได้เที่ยวเยอะขึ้นอีกต่างหาก

Adiyaman : ถ้าอยากเที่ยวแบบอันซีนทริป ต้องลองไปเที่ยวเมืองนี้ เพราะมีซากหินรูปปั้นหน้าคนที่ตั้งอยู่บนยอดเขา Nemrut แต่ก็ค่อนข้างไปยาก เพราะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กับประเทศซีเรีย ต้องซื้อทัวร์ไป โดยสามารถหาซื้อทัวร์จากเมืองคัปปาโดเกียได้เลย

Mount Ararat : เสียงลือเสียงเล่าอ้างบอกว่าบนยอดเขาแห่งนี้มีการค้นพบซากเรือโนอาห์! แต่ก็ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอะไรนะ เพราะยอดเขาอารารัตเป็นภูเขาสูงที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะเกือบทั้งปี ฉะนั้นจึงค่อนข้างอันตราย แต่เอามาเล่าให้ฟังเป็นตำนานสนุกๆ เฉยๆ เด้ออ

จาก Istanbul ไป Ephesus (Selcuk)

เลือกระหว่างนั่งเครื่องบินภายในประเทศหรือรถบัสไปลงที่อิซเมียร์แล้วต่อรถจากอิซเมียร์ไปยังเมืองเซลจุค หรือจะนั่งรถบัสยิงยาวจากอิสตันบูลไปลงที่เซลจุคเลยก็ได้

จาก Istanbul ไป Izmir

สายการบินภายในประเทศ : Pegasus Airlines (Ataturk Airport หรือ Sabiha Gokcen Airport > Izmir Adnan Menderes Airport)
ราคา : ถ้าจองล่วงหน้า 2-3 เดือนขึ้นไป เริ่มต้น 95.99 ลีรา (ประมาณ 520 บาท)
ใช้เวลาเดินทาง : ประมาณ 1 ชั่วโมง

รถบัส : Metro Bus
ราคา : 105 ลีรา (ประมาณ 570 บาท แพงกว่านั่งเครื่องบินอี๊ก)

รถบัส : Pamukkale Bus
ราคา : 110 ลีรา

รถบัสจะใช้เวลาเดินทาง : ประมาณ 7 ชั่วโมง ส่วนใหญ่นิยมเดินทางตอนกลางคืนแล้วไปถึงอิซเมียร์ตอนเช้า ประหยัดค่าโรงแรมไปได้ 1 คืน

จาก Izmir ไป Selcuk (Ephesus)

Shuttle Bus : จากสนามบินไปเซลจุค
ราคา : 30 ลีรา
ใช้เวลาเดินทาง : ประมาณ 1 ชั่วโมง

Minibus : จากสถานีรถบัส Otogar ในตัวเมืองอิซเมียร์ไปเซลจุค
ราคา : 10 ลีรา
ใช้เวลาเดินทาง : ประมาณ 1 ชั่วโมง
ทางไปจอง : สามารถไปขึ้นที่สถานี Otogar ได้เลย ไม่ต้องจองล่วงหน้าเพราะรถมีให้บริการค่อนข้างถี่ ออกทุก 15-20 นาที

เช่ารถ : ถ้าไปกันหลายคนแนะนำว่าเช่ารถขับจะสะดวกกว่ามาก เพราะสามารถขับไปแวะเที่ยวเซลจุคแล้วขับต่อไปปามุคคาเลเลยก็ได้ ค่าเช่ารถไม่แพงอย่างที่คิด เราเองก็เช่ารถขับในช่วงการเดินทางระหว่างอิซเมียร์ – เซลจุค – ปามุคคาเล 5 วัน ราคา  2,535 บาท เท่านั้นเอง : )

เดินทางจาก Istanbul ตรงไป Selcuk เลย

รถบัส : Metro Bus
ราคา : 
130 ลีรา
ใช้เวลาเดินทาง : ประมาณ 8 – 9 ชั่วโมง

จาก Selcuk ไป Pamukkale

รถบัส : Pamukkale Bus
ราคา : 40 ลีรา
ใช้เวลาเดินทาง : ประมาณ 5 ชั่วโมง

เช่ารถ : อ่านรีวิวเพิ่มเติมการเช่ารถขับเที่ยวปามุคคาเลได้ที่ > ต้องมนต์ปราสาทปุยฝ้าย “ปามุคคาเล” เสน่ห์แห่งเมืองเดนิซลี

จาก Pamukkale ไป Cappadocia

รถบัส : Metro Bus
ราคา : 80 ลีรา
ใช้เวลาเดินทาง : ประมาณ 10 – 11 ชั่วโมง ส่วนใหญ่นิยมเดินทางตอนกลางคืนแล้วไปถึงคัปปาโดเกียตอนเช้า ประหยัดค่าโรงแรมไปได้ 1 คืน

หมายเหตุ : ถ้าไม่อยากนั่งรถบัสนานๆ สามารถเลือกเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศได้นะ โดยไปขึ้นที่สนามบินอิซเมียร์แล้วเลือกลงที่สนามบิน Kayseri จากนั้นจะเช่ารถขับเข้าเมืองคัปปาโดเกียหรือนั่งรถบัสหรือติดต่อรถ Shuttle Bus ของโรงแรมให้มารับก็ได้ อ่านรีวิวเพิ่มเติมการเช่ารถขับเที่ยวคัปปาโดเกียได้ที่ > นอนถ้ำ ขับรถเที่ยว แชะรูปสุดเฟี้ยวที่ “คัปปาโดเกีย”

จาก Cappadocia กลับ Istanbul

สายการบินภายในประเทศ : Pegasus Airlines (Erkilet International Airport เมือง Kayseri > Ataturk Airport หรือ Sabiha Gokcen Airport)
ราคา : ถ้าจองล่วงหน้า 2-3 เดือนขึ้นไป เริ่มต้น 105 ลีรา (ประมาณ 580 บาท)
ใช้เวลาเดินทาง : ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

รถบัส : ONCU Bus
ราคา : 120 ลีรา
ใช้เวลาเดินทาง : ประมาณ 11 – 12 ชั่วโมง

ปล. การเดินทางระหว่าง Cappadocia กลับ Istanbul ค่อนข้างใช้เวลานานมากทีเดียว เราแอบแนะนำให้นั่งเครื่องบินภายในประเทศกลับดีกว่า ประหยัดเวลากว่าเยอะ สายการบิน Pegasus Airlines จองล่วงหน้า 2-3 เดือน ราคาเริ่มต้นแค่ 105 ลีรา ถูกกว่ารถบัสอี๊ก แถมใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง : )