วิหารเซนต์ โซเฟีย หรือฮายาโซฟอา

ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia) แห่งนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตก ยุคไบเซนไทน์(Byzantine) ทั้งนิกายออร์โธดอกซ์ และคาทอลิกกรีก และได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ก่อนจะได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายให้เป็น 1 ใน 21 สิ่งมหัศจรรย์ยุคใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 2007

 

 

คำว่า “Hagia Sophia” มีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษว่า “Holy Wisdom” หรือ “ภูมิปัญญาศักดิ์สิทธิ์” เป็นชื่อทฤษฎีในคริสตวรรษที่ 4 อุทิศแด่พระเยซูคริสต์ เดิมทีเดียวได้รับการขนานนามว่า “มหาโบสถ์” (The Great Church” เนื่องจากมีขนาดใหญ่ที่สุด เมื่อเทียบกับโบสถ์คริสต์ทั่วโลกในยุคนั้น

ประวัติความเป็นมาของ ฮาเกีย โซเฟีย น่าอัศจรรย์ไม่ด้อยไปกว่าความยิ่งใหญ่ด้านสถาปัตยกรรม เนื่องจากโบสถ์แห่งนี้ทำหน้าที่เป็นวิหารของพระราชาคณะแห่งคอนสแตนติโนเปิล เป็นโบสถ์ของนิกายไบแซนไทน์ในเวลาเดียวกัน นับเป็นเวลานานกว่า 1,000 ปี แต่เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ปี ค.ศ. 1453 สุลต่านแห่งตุรกี บุกยึดเมืองหลวงและดัดแปลงทุกสิ่งอย่างภายในโบสถ์ แปลงเป็นสุเหร่าของมุสลิม

เดิมโบสถ์หลังแรก ก่อสร้างเมื่อปี ค.ศ. 360 โดยคอนสแตนเตียส จักรพรรดิโรมันตะวันออกแต่ถูกทำลายจากการเกิดจลาจลในปี ค.ศ. 404 จากนั้นจักรพรรดิธีโอดอเซียส ที่ 2 ได้บูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 415 และถูกทำลายจากการจลาจลอีกเช่นกันเมื่อปี ค.ศ. 532 ส่วนโบสถ์ที่คงสภาพมาจนถึงปัจจุบัน ก่อสร้างในยุคจักรพรรดิจัสติเนียน สมัยที่อาณาจักรไบแซนไทน์เรืองอำนาจและมีอิทธิพลสูงสุด ระหว่างปี ค.ศ. 532-537 มีการระดมแรงงานก่อสร้างกว่า 10,000 คน โดยมี โดมขนาดใหญ่ เป็นองค์ประกอบโดดเด่นที่สุดของโบสถ์ และเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีโดมอยู่ตรงกลาง ได้รับการสงวนไว้เป็นมาตรฐานของมัสยิดแถบตะวันออกกลาง และตะวันออกไกล้

จุดเด่น คือ มียอดโดมใหญ่อยู่กลางวิหาร ภายในมีเสาค้ำสลักและประดับประดาอย่างงดงามถึง 108 ต้น ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ยังคงความงดงามมาจนทุกวันนี้