เยือนอิสตันบูล เที่ยวประเทศตุรกี 5 ที่นี้อย่าได้พลาด

ประเทศตุรกีเป็นประเทศเดียวในโลกที่ได้รับการขนานนามว่า “ดินแดน 2 ทวีป” เพราะตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่านในยุโรปและคาบสมุทรอานาโตเลียในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปีก่อนคริสตกาล ความโดดเด่นของดินแดน 2 ทวีปแห่งนี้คือสถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะตะวันออกแบบออตโตมันกับศิลปะตะวันตกแบบกรีก-โรมันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีธรรมชาติที่สวยงามและหลากหลายอีกด้วย ใครอยากเที่ยวตุรกีตาม Expedia ไปดูแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจกันเถอะ

เยือนอิสตันบูล เที่ยวประเทศตุรกี 8 ที่นี้อย่าได้พลาด

  1. Hagia Sopia พิพิธภัณฑ์ฮาเกียโซเฟีย
1-Hagia-Sopia-3
1-Hagia-Sopia
1-Hagia-Sopia-2

พิพิธภัณฑ์ฮาเกียโซเฟีย เป็นสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในเมืองอิสตันบูลประเทศตุรกี เดิมเคยเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายออร์ทอดอกซ์สร้างโดยจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งไบแซนไทน์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1453 จักรวรรดิออตโตมันมีชัยชนะเหนือจักรวรรดิไบแซนไทน์ สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 จึงดัดแปลงโบสถ์ให้เป็นสุเหร่าแทน โดยสุเหร่าฮาเกียโซเฟียเป็นสุเหร่าหลักของเมืองอิสตันบูลยาวนานกว่า 500 ปี ก่อนรัฐบาลตุรกีจะดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1935 ความโดดเด่นของที่นี่คือยอดโดมขนาดใหญ่และความงดงามของสถาปัตยกรรมการตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างศิลปะไบแซนไทน์กับศิลปะออตโตมันเข้าด้วยกัน

2. Sultan Ahmed Mosque หรือ Blue Mosque สุเหร่าสีน้ำเงิน

2-Sultan-Ahmed-Mosque-หรือ-Blue-Mosque
2-Sultan-Ahmed-Mosque-หรือ-Blue-Mosque-3
2-Sultan-Ahmed-Mosque-หรือ-Blue-Mosque-2

สุเหร่าสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน ตั้งอยู่ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์ฮาเกียโซเฟีย เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1609 เนื่องจากสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 ต้องการสร้างสุเหร่าศิลปะตะวันออกแบบออตโตมันให้ใหญ่กว่าโบสถ์ฮาเกียโซเฟีย โดยสร้างหันหน้าเข้าหากันแต่อยู่คนละฝั่งเพื่อประชันความยิ่งใหญ่และสวยงาม เอกลักษณ์ของสุเหร่าแห่งนี้คือด้านในสุเหร่าประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าทั้งหมดยามต้องแสงจึงสวยงามมาก ทั้งยังมีลานด้านหน้าที่กว้างที่สุดในกลุ่มสุเหร่าแบบออตโตมันและมีหอสวดมนต์อยู่ถึง 7 หอ

3. Topkapi Palace พระราชวังโทพคาปึ

3-Topkapi-Palace
3-Topkapi-Palace-2
3-Topkapi-Palace-3

พระราชวังโทพคาปึ เมืองอิสตันบูล เดิมเป็นที่ประทับหลักของสุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมันระหว่างปี ค.ศ. 1465 – 1853 ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่จัดงานรับรองของรัฐบาลประเทศตุรกี พระราชวังแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างศิลปะและสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดของกลุ่มพระราชวังในสมัยออตโตมัน ตกแต่งอย่างหรูหรา มีอาณาบริเวณกว้าง ทั้งยังตั้งอยู่ในจุดที่สามารถชมวิวช่องแคบบอสฟอรัสได้อย่างสวยงาม ภายในเปิดให้เข้าชมเพียงบางห้องและบางตำหนัก เช่น ห้องแสดงเครื่องเคลือบพอร์ซีเลน ห้องแสดงหนังสือวิจิตรออตโตมัน และตำหนักแบกแดด

4. Grand Bazaar ตลาดแกรนด์บาซาร์

4-Grand-Bazaar
4-Grand-Bazaar-2
4-Grand-Bazaar-3

ตลาดแกรนด์บาซาร์ เมืองอิสตันบูลเป็นตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศตุรกี มีความเป็นมายาวนานกว่า 1,000 ปี นอกจากจะเก่าแก่ที่สุดแล้ว ยังเป็นตลาดในร่มสถาปัตยกรรมแบบออตโตมันที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย ภายในตลาดแกรนด์บาซาร์มีร้านค้ามากกว่า 4,000 ร้าน มีทางเข้ามากกว่า 21 ทาง แบ่งออกเป็นโซนตามประเภทสินค้าชัดเจน สินค้าหลักๆ ที่ขายในนี้คือ เครื่องเงิน พรม สิ่งทอ เสื้อผ้า วัตถุโบราณ ทองคำ และของที่ระลึก

5. Oludeniz หาดโอลูเดนิซ

5-Oludeniz
5-Oludeniz-2
5-Oludeniz-3

หาดโอลูเดนิซ เป็นชายหาดที่สวยที่สุดในประเทศตุรกีและเป็นหนึ่งใน 5 ชายหาดและทะเลที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย เพราะเป็นจุดที่ทะเลอีเจี้ยนกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาบรรจบกัน เอกลักษณ์ของที่นี่คือ Blue Lagoon ชายหาดสีขาวคล้ายแหลมที่ทอดตัวออกไปกลางทะเล ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าสดใส ต้นไม้และภูเขาเขียวขจี ทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย เช่นนั่งบอลลูนชมทิวทัศน์มุมสูง ล่องเรือใบในทะเลอีเจี้ยน และอาบแดด