ที่เที่ยวอิสตันบูลแบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน โซนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว คือ
- โซนเมืองเก่า ‘สุลต่านอาห์เหม็ด’ (Sultanahmet) เป็นย่านที่รวมพิพิธภัณฑ์ มัสยิด และพระราชวังไว้หลายแห่ง เช่น มัสยิดสุลต่านอาเหม็ด ฮาเกียโซเฟีย อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาทัน พระราชวังโทพคาปึ และพิพิธภัณฑ์โบราณคดีอิสตันบูล เป็นต้น
- โซนท่าเรือ ‘Eminönü’ อยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา รวมที่เที่ยว เช่น มัสยิดซิวเลย์มานีเย ตลาดแกรนด์บาซาร์ และตลาดเครื่องเทศสไปซ์มาร์เก็ต เป็นต้น
- ย่านสมัยใหม่สุดคึกคัก ‘คาราคอย’ (Karaköy) รวมคาเฟ่สุดเก๋ที่มีบรรยากาศน่านั่ง มีสถานที่เที่ยวใกล้เคียง เช่น สะพานกาลาตา และหอคอยกาลาตา เป็นต้น
- ย่านทักซิมสแควร์ (Taksim Square) เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของอิสตันบูล รวมถนนคนเดินที่มีชื่อเสียง พิพิธภัณฑ์ มัสยิด และยังเดินทางไปเที่ยวที่พระราชวังโดลมาบาห์เชได้ง่าย
- ย่านฝั่งเอเชีย ‘อึสคือดาร์’ (Üsküdar) และ ‘คาดิคอย’ (Kadıköy) เหมาะสำหรับการนั่งเรือเที่ยวช่องแคบบอสฟอรัส รวมร้านอาหารราคาประหยัด และที่เที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น มัสยิดคัมลิกา (Çamlıca Mosque) พระราชวังพระราชวังเบเลอร์เบยี (Beylerbeyi Palace) และตลาด Kadıköy เป็นต้น
ฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia)

ฮาเกียโซเฟีย หรือมหาวิหารเซนต์โซเฟีย (ภาษาตุรกี: Ayasofya) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่มีความสวยงามในเมืองอิสตันบูล ตั้งอยู่ที่ย่านเมืองเก่าทางฝั่งยุโรปตะวันตกตรงข้ามกับจัตุรัสสุลต่านอาเหม็ด ที่นี่เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่ยิ่งใหญ่ของโลก ตัวอาคารมีสถาปัตยกรรมที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงทางศาสนาในหลายศตวรรษที่ผ่านมา รวมไปถึงภาพโมเสกพระจักรพรรดินีโซอีที่ยังคงเห็นได้ภายในตัวอาคารจนถึงปัจจุบัน






มัสยิดสุลต่านอาเหม็ด (Sultan Ahmed Mosque)

มัสยิดสุลต่านอาเหม็ด หรือสุเหร่าสุลต่านอาห์เหม็ด (ภาษาตุรกี: Sultan Ahmet Camii) เป็นแลนด์มาร์คทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของอิสตันบูลและรู้จักกันดีในชื่อ ‘มัสยิดสีน้ำเงิน’ (Blue Mosque) เนื่องจากผนังด้านในตกแต่งรอบล้อมด้วยกระเบื้องเคลือบสีฟ้าและหินอ่อนแกะสลักอย่างปราณีต ที่นี่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับฮาเกียโซเฟีย สถาปัตยกรรมที่ใช้ในการออกแบบจึงมีความใกล้เคียงกัน
จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต (Sultanahmet Square)

จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต (ภาษาตุรกี: Sultanahmet Meydanı) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ‘ฮิปโปโดรม’ (Hippodrome) ในอดีตใช้เป็นสนามแข่งม้าซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในยุคเฮล เลนิสติกโรมัน และไบแซนไทน์ ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในย่านเมืองเก่า




อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาทัน (Basilica Cistern)

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาทัน (ภาษาตุรกี: Yerebatan Sarnici) เป็นอ่างเก็บน้ำโบราณใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอิสตันบูล ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าใกล้กับมัสยิดสีน้ำเงินและฮาเกียโซเฟีย สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6 สมัยของจักรพรรดิจัสติเนียนที่ 1 แห่งไบแซนไทน์
พื้นที่ด้านในเป็นห้องใต้ดินขนาดประมาณ 138 เมตร ประดับด้วยเสาหินอ่อน 12 แถวรวมจำนวน 28 เสา โดยแต่ละเสาห่างกัน 5 เมตร ที่นี่สามารถจุน้ำได้มากถึง 80,000 ลูกบาศก์เมตร ในอดีตใช้เป็นระบบกรองน้ำให้กับพระราชวังใหญ่แห่งคอนสแตนติโนเปิลและพระราชวังโทพกาปึ ปัจจุบันมีน้ำขังเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมโดยสามารถเดินลงไปได้ผ่านบันไดห้าสิบสองขั้น ที่นี่ยังเคยเป็นฉากหนึ่งของการถ่ายทำภาพยนตร์ ‘1963 James Bond’ อีก
พระราชวังโทพคาปึ (Topkapı Palace)

พระราชวังโทพคาปึ (ภาษาตุรกี: Topkapı Sarayı) เป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวังขนาดใหญ่ของเมืองอิสตันบูล ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางประวัติศาสตร์เก่าแก่ทางด้านหลังฮาเกียโซเฟียสามารถเดินไปได้เพียง 3 นาที ที่นี่เคยเป็นที่อยู่อาศัยและที่ทำงานหลักของสุลต่านออตโตมันในช่วงในศตวรรษที่ 15 และ 16 ด้านในพระราชวังประกอบด้วยลานหลักสี่แห่งและอาคารขนาดเล็กจำนวนมาก มีพื้นที่รวมทั้งหมดกว่า 7,535,000 ตารางฟุต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอิสตันบูลที่ห้ามพลาดต้องเข้าชม


พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahçe Palace)

พระราชวังโดลมาบาห์เช (ภาษาตุรกี: Dolmabahçe Sarayı) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสฝั่งทวีปยุโรปของอิสตันบูล เป็นพระราชวังที่มีความสวยงามตระการ สร้างด้วยหินอ่อนโดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมจากตะวันตก เช่น บารอค รอคโคโค นีโอคลาสสิก ผนวกเข้ากับวัฒนธรรมออสโตแบบดั้งเดิมทำให้เกิดรูปแบบศิลปะแนวใหม่ที่มีความโดดเด่น ใครที่กำลังวางแผนมาเที่ยวที่อิสตันบูล เราขอแนะนำให้ไปเข้าชมความสวยงามของพระราชวังแห่งนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง
ภายในพระราชวังโดลมาบาห์เช ยังมีพิพิธภัณฑ์นาฬิกาและพิพิธภัณฑ์ภาพวาด สามารถซื้อตั๋วแบบ Combined Ticket ได้ที่เคาน์เตอร์ประตูทางเข้า การเข้าชมพระราชวังต้องใช้ถุงพลาสติกที่จัดไว้ให้เพื่อสวมรอบรองเท้าก่อน มีโบว์ชัวร์ประวัติความเป็นมาของที่นี่สามารถหยิบได้ฟรี มีภาษาไทยด้วยค่ะ ใครที่อยากได้ออดิโอเสียงขนาดเล็กสามารถขอได้ที่เคาน์เตอร์ทางเข้า ต้องใช้พาสปอร์ตมัดจำ (ขอรับคืนได้หลังชมเสร็จ) ที่สำคัญต้องเดินตามเส้นทางที่จัดไว้ ห้ามจับสิ่งของภายในพระราชวังและห้ามถ่ายภาพ ห้องที่เข้าชมแล้วหยุดมองอยู่นานเพราะสวยมาก คือ บันไดคริสตัล ห้องโถงใหญ่ ห้องการทูต ห้องสีน้ำเงิน (ห้องสุลต่าน) ห้องสีชมพู (ห้องประชุมของมเหสีและสนม) และห้องอาบน้ำของสุลต่านที่สามารถมองเห็นวิวทะเลมาร์มารา